บทความ ต.ค._๑๗๑๐๐๕_0002
หน้าแรก
ใช้ท่าเดิมซ้ำ ๆ เสี่ยงเกิดนิ้วล็อค แต่รักษาด้วยตนเองได้
ใช้ท่าเดิมซ้ำ ๆ เสี่ยงเกิดนิ้วล็อค แต่รักษาด้วยตนเองได้

อาการนิ้วล็อคเป็นอาการที่ส่งผลต่อกิจกรรมประจำวันบางอย่าง เพราะเป็นอาการที่ทำให้นิ้วเกร็งและอาจต้องหยุดการกระทำกิจกรรมบางอย่างไปชั่วคราว โดยเฉพาะกิจกรรมที่ต้องใช้นิ้วมือ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดคือการทำกิจกรรมเดิมซ้ำๆ แต่สามารถรักษาได้ด้วยตนเอง

อาการนิ้วล็อคในระยะแรกจะปวดบริเวณโคนนิ้วมือ กำมือไม่ถนัด หรือกำได้ไม่เต็มที่ โดยเฉพาะตอนเช้าหลังตื่นนอน อาจเป็นนิ้วเดียวหรือหลายนิ้วพร้อมกัน โดยการล็อคจะอยู่ในตำแหน่งที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าใช้ท่าไหนเป็นประจำ

วิธีรักษาอาการนิ้วล็อค

  1. ยกมือขึ้นระดับไหล่ใช้มือข้างหนึ่งดันข้อมือให้กระดกขึ้นและกระดกลง ค้างไว้ 10 วินาที เซ็ตละ 6-10 ครั้ง วิธีนี้เป็นการยืดกล้ามเนื้อแขน
  2. ฝึกกำและแบมือหรือใช้ลูกบอล ช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวของข้อนิ้วมือ วิธีนี้เป็นการบริหารมือและนิ้วมือเพื่อบำบัดอาการ
  3. เพิ่มกำลังกล้ามเนื้อที่ใช้งอและเหยียดนิ้วมือ โดยการใช้ยางยืดสร้างแรงต้าน ใส่ยางในนิ้วมือแล้วเหยียดนิ้วออก ค้างไว้ 10 วินาที แล้วปล่อยมือ

วิธีลดความเสี่ยงอาการนิ้วล็อค

  1. ไม่หิ้วของหนักจนเกินไป ถ้าจำเป็นให้ใช้ผ้าขนหนูรองหูหิ้ว หรือเปลี่ยนวิธีหิ้วเป็นอุ้มประคองหรือใช้รถเข็นลากแทน
  2. การใช้อุปกรณ์ทุ่นแรงควรสวมถุงมือหรือห่อหุ้มด้ามจับให้นุ่มขึ้น และงานที่ต้องใช้เวลานานในการทำงาน ควรพักมือเป็นระยะๆ รวมถึงการออกกำลังเพื่อยืดกล้ามเนื้อมือบ้าง
  3. ไม่ขยับนิ้ว หรือดีดนิ้วเล่น เพราะจะทำให้เส้นเอ็นอักเสบมากยิ่งขึ้น
  4. ถ้ามีข้อฝืดในตอนเช้าหรือมือเมื่อยล้า แนะนำให้แช่มือในน้ำอุ่นแล้วขยับมือโดยการกำมือและแบมือในน้ำอุ่นสักระยะ

 

ข้อมูลจาก
รศ. ดร.พูลสุข เจนพานิชย์ วิสุทธิพันธ์
รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล


คลิกชมคลิปรายการ “นิ้วล็อค..ช็อกเลย!! รายการ สามัญประจำบ้าน ep.77” ได้ที่นี่