อาการปวดศีรษะมีหลายรูปแบบและเกิดได้จากหลายสาเหตุ ปวดศีรษะ ไมเกรน เป็นอาการหนึ่งที่พบได้บ่อยและกวนใจชาวออฟฟิศ เมื่อเป็นแล้วจะมีอาการปวดที่ทรมาน บางคนอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ตาพร่ามัวหรือเห็นแสงระยิบระยับนำมาก่อน
ปวดศีรษะแบบไหนถึงเรียกว่า ไมเกรน
- ปวดศีรษะข้างเดียวหรือเริ่มปวดจากข้างเดียวก่อนแล้วค่อย ๆ เริ่มปวดทั้ง 2 ข้าง
- ปวดตุบ ๆ คล้ายมีอะไรเต้นหรือเหมือนโดนอะไรบีบตรงบริเวณขมับปวดเป็นระยะ ๆ
- มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
- การปวดจะกินระยะเวลานานหลายชั่วโมง แต่จะไม่นานเกิน 1 วัน
- ความรุนแรงของอาการปวด มีตั้งแต่ปวดปานกลางจนถึงรุนแรงมาก ระยะเวลาในการปวดแต่ละครั้งส่วนใหญ่ประมาณ 4-7 ชม.
- อาการปวดจะกำเริบหรือรุนแรงมากขึ้นเมื่อมีความเครียด อากาศร้อน แสงจ้า หรืออดนอน
ไมเกรนเกิดจากอะไร
สาเหตุของการปวดศีรษะไมเกรน ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัด ในหลาย ๆ ทฤษฎีเชื่อว่าอาจเกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง การสื่อกระแสในสมอง หรือการทำงานของหลอดเลือดแดงในสมองผิดปกติ นอกจากนี้ ไมเกรนยังสามารถติดต่อผ่านพันธุกรรมได้
ปัจจัยที่กระตุ้นที่ทำให้เกิดการกำเริบของ ไมเกรน
อาการปวดศีรษะไมเกรนเกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้
- ทางตา ได้แก่ แสงจ้า แสงระยิบระยับ การใช้สายตา
- ทางหู ได้แก่ เสียงดัง ๆ หรือเสียงจอแจ จ้อกแจ้ก
- ทางจมูก ได้แก่ กลิ่นฉุน เช่น น้ำหอม บุหรี่ น้ำมันรถ
- ทางลิ้น ได้แก่ การกินอาหาร และเครื่องดื่มต่าง ๆ เช่น กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ทางกาย ได้แก่ มีประจำเดือน อากาศร้อน-เย็นเกินไป การอดนอนหรือนอนตื่นสาย
- ทางใจ ได้แก่ เครียด อารมณ์หงุดหงิด โมโห ตื่นเต้น ตกใจ
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรคไมเกรน
- ควบคุมปัจจัยสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ อากาศ แสงไฟกะพริบ กลิ่นฉุน
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- หากิจกรรมทำเพื่อลดความเครียด เช่น ฟังเพลง ดูหนัง อ่านหนังสือ
- กินยาตามแพทย์สั่ง
- การนอน ควรนอนให้เป็นเวลา
- งดการใช้ยาเกี่ยวกับฮอร์โมน เช่น ยาคุมกำเนิด
การดูแลตัวเองเมื่อเกิดอาการไมเกรน
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งเมื่อมีอาการปวด ไมเกรน
- นอนพักหรือนั่งพักในห้องที่เงียบ และอากาศปลอดโปร่ง
- ผ่อนลมหายใจเข้า-ออกแรง ๆ สักพักแล้วอาการจะดีขึ้น
- ใช้นิ้วมือนวดเบา ๆ หรือใช้น้ำแข็งประคบบริเวณขมับ
การรับประทานอาหารของผู้ป่วยไมเกรน
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารไทรามีน (tyramine) เช่น เนยแข็ง เนื้อสัตว์แปรรูป ของหมักดอง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ
- หลีกเลี่ยงของหวานที่มีส่วนผสมของช็อกโกแลต โกโก้
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
ข้อมูลจาก
อ. ดร.ปิยวดี ทองยศ
สาขาวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ
โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล